วันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ ๑๖.๓๐
น.เป็นต้นไป พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา สวป.ฯ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ออกเดินทาง
ไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประุชาชนที่ตลาดนัดเชียงรุ้งเมืองใหม่ ตำบลทุ่งก่อ
อำเภอเวียงเชียงรุ้ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายการพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนของ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕
ตลาดนัดแห่งนี้จะเปิดทำการทุกๆ วันพฤหัสบดีช่วงเวลาตั้งแต่้ประมาณ ๑๔.๐๐-๒๐.๐๐ น.ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งก่อ อำเ้ภอเวียงเชียงรุ้ง อยู่ห่างจาก สภ.เวียงเชียงรุ้งประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษๆ มีพ่อค้าแม่ขายประมาณ ๕๐-๖๐ เจ้า ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ใช้ภายในครัวเรือนทั่วไป อาทิเช่น เนื้อ หมู ผัก อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
การดำเนินการของพวกเราในวันนี้นั้นเป็นไปในลักษณะ "มาเยี่ยมถึงเรือน มาเยือนถึงถิ่น" ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพซึ่งออกมาจากใจของพวกเรา พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบของพี่น้องไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขายในตลาดและพี่น้องที่เดินทางมาจับจ่ายหาซื้อสิ่งของจำนวนหนึ่ง
นอกจากการพบปะพูดคุยเรื่องราวต่างๆ
แล้วพวกเรายังได้นำเอกสารความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบ
ปรามยาเ้สพติดจัดทำเผยแพร่ในรูปแบบแผ่นพับหัวข้อ "๑๐
ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาเสพติด"
แจกจ่ายแก่พี่น้องรวมถึงอธิบายเพิ่มเติมและขอความร่วมมือพี่น้องช่วยแจ้ง
ข้อมูล
เบาะแสการกระทำผิดที่พี่น้องทราบแก่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองในรูปแบบต่างๆ ด้วย
การออกพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องนอกจากจะเป็นไปตามหลักการและนโยบายของผู้
บังคับบัญชาดังกล่าวข้างต้นนี้แล้วยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ
ประกอบตามมานั่นก็คืองานที่ต้องทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการ
ป้องกันอาชญากรรมโดยเริ่มตั้งแต่ตำรวจต้องปรับบทบาทในการสร้างความศรัทธา
เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ให้เกิดความรักนับถือมีเจตคติที่ดีต่อตำรวจ
อันจะนำผลไปสู่ความเข้าใจและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อไปโดยวิธีการต่าง ๆ
ในการทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรวมทั้งนี้ก็เพื่อเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทำให้
ชุมชนหรือสังคมมีความสงบสุข ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่งที่ สำคัญอีกประการหนึ่งของการออกพบปะเยี่ยมเยียนนั้นก็คือหน้าที่ของผมซึ่งเป็น หน้าที่หรืองานหลักคือการระวังป้องกันเหตุเภทภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพี่น้อง ได้เพราะถึงแม้ว่าตอนหลังเราจะจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้แต่ความเสียหายกับพี่ น้องก็เกิดขึ้นแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไว้ก่อน โดยเรื่องนี้ตำรวจเราทุกคนท่องจำพระบรมราโชวาทของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ที่พระราชทานไว้ว่า "การจับผู้ร้ายนั้นจะไม่ถือเป็นความชอบ เป็นแต่นับว่าผู้นั้นได้กระทำการครบถ้วนแก่หน้าที่เท่านั้น แต่จะถือเป็นความชอบต่อเมื่อได้ปกครองป้องกันเหตุร้ายให้ชีวิตและทรัพย์ สมบัติของข้าแผ่นดินในท้องที่นั้นอยู่เย็นเป็นปกติสุขพอสมควร" ได้อย่างขึ้นใจรวมทั้งน้อมนำพระบรมราโชวาทซึ่งมีค่านี้มาปฏิบัติ
<< ภาพทั้งหมด (๓๗ ภาพ) >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น